Comment
Author: Admin | 2025-04-28
ที่มาของภาพ, ReutersAuthor, โจ ไทดีRole, ผู้สื่อข่าวไซเบอร์12 พฤศจิกายน 2024ข่าวบิทคอยน์กลับมาเป็นพาดหัวข่าวใหญ่อีกครั้ง หลังสร้างประวัติศาสตร์รอบใหม่ด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังการชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของโดนัลด์ ทรัมป์ แม้ว่าประธานาธิบดีคนใหม่อย่างทรัมป์จะเคยเรียกบิทคอยน์ว่าเป็นเรื่อง "หลอกลวง" ในปี 2021 แต่เขาก็เปลี่ยนใจและพยายามเอาใจแฟน ๆ บิทคอยน์ในช่วงการหาเสียง โดยสัญญาว่าจะทำให้สหรัฐฯ เป็น "เมืองหลวงคริปโตของโลก" ขณะนี้นักลงทุนบิทคอยน์กำลังเฉลิมฉลองเมื่อมูลค่าเหรียญดิจิทัลของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางความตื่นเต้นในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ความผันผวนของราคาบิทคอยน์เป็นเรื่องที่น่าสนใจมานาน เพราะความร่ำรวยสามารถเกิดขึ้นได้และสูญเสียไปในพริบตา แต่ราคาของบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องเดียวที่น่าสนใจ นี่คือ "7 ช่วงเวลาสุดบ้าคลั่ง" ในประวัติศาสตร์ของสกุลเงินคริปโตที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของโลกโดยบีบีซีSkip เรื่องแนะนำ and continue readingเรื่องแนะนำEnd of เรื่องแนะนำ1. ผู้สร้างบิทคอยน์ยังคงเป็นปริศนา ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้นบิทคอยน์ แนวคิดเรื่องบิทคอยน์ถูกโพสต์ครั้งแรกลงบนกระทู้ในอินเทอร์เน็ต เมื่อปี 2008 โดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า ซาโตชิ นากาโมโตะรายงานเอกสารของเขาอธิบายถึงระบบเงินสดดิจิทัลแบบเพียร์ทูเพียร์ (peer-to-peer) ซึ่งผู้คนสามารถส่งเหรียญ[เงิน]เสมือนบนโลกออนไลน์ได้ราวกับการส่งอีเมลซาโตชิสร้างระบบคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนในการประมวลผลธุรกรรมและสร้างเหรียญใหม่ผ่านเครือข่ายอาสาสมัครทั่วโลกที่ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษและคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพที่มาของภาพ, Reteursคำบรรยายภาพ, โดเรียน นากาโมโตะ เคยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่าเป็นผู้คิดค้นบิทคอยน์นักข่าว แฟนคลับคริปโต และนักสืบสวนหลายคนพยายามสืบหาว่า ใครคือซาโตชิ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวในปี 2014 นักข่าวตามติดชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มีชื่อว่า โดเรียน นากาโมโตะ เพราะคิดว่าเขาคือผู้สร้างบิทคอยน์ที่เป็นปริศนา แต่ปรากฏว่าเป็นความเข้าใจผิดจากข้อมูลที่แปลผิดไปมีชื่ออื่น ๆ ที่ถูกโยงเข้ามาด้วย แต่มีเพียงคนเดียวที่ออกมาอ้างว่าเขาคือซาโตชิ ในปี 2016 นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวออสเตรเลีย เครก ไรท์ ออกมาเปิดเผยว่าเขาคือซาโตชิในบทสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กับบีบีซีเขากล่าวว่า: “ผมคือซาโตชิ นากาโมโตะ ผมเป็นส่วนสำคัญของมัน[บิทคอยน์] คนอื่น ๆ ช่วยผม บางคนอาจเชื่อ บางคนอาจไม่บอกความจริงกับคุณ เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร”ที่มาของภาพ, Gettyคำบรรยายภาพ, ดร.เครก ไรท์ อ้างว่าเขาเป็นผู้สร้างบิทคอยน์ในปี 2016 แต่ไรท์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เขาคือซาโตชิ หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเวลาหลายปี ผู้พิพากษาศาลสูงในกรุงลอนดอนของอังกฤษสรุปในปี 2014 ว่า ไรท์ไม่ใช่ซาโตชิเมื่อไม่นานมานี้ สารคดีของ HBO ได้พุ่งเป้าไปที่ผู้เชี่ยวชาญด้านบิทคอยน์ชาวแคนาดาชื่อปีเตอร์ ท็อดด์ แต่เขาปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่ใช่ซาโตชิ และดูเหมือนว่าชุมชนคริปโตจะเชื่อเขา2. การซื้อพิซซ่าประวัติศาสตร์ธุรกรรมครั้งแรกของบิทคอยน์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2010 เมื่อ ลาซโล ฮาเนคซ์ ผู้ใช้บิทคอยน์เสนอจ่ายบิทคอยน์มูลค่า 41 ดอลลาร์สหรัฐ ในกระทู้เกี่ยวกับคริปโตเพื่อแลกกับพิซซ่าสองถาดนักศึกษาอายุ 19 ปีคนหนึ่งตอบรับ และวันนั้นก็ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นวัน #BitcoinPizzaการซื้อพิซซ่ากลายเป็นการเฉลิมฉลองและมีมประจำปีที่ทำให้ทุกคนหัวเราะ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงพลังของบิทคอยน์ เงินสกุลดิจิทัลที่สามารถซื้อของทางออนไลน์ได้จริงอาชญากรคงจับตามองเหตุการณ์นั้นอยู่เช่นกัน เพราะภายในหนึ่งปี ตลาดมืดออนไลน์แห่งแรกก็เปิดตัว โดยมีการขายยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ แลกกับบิทคอยน์ดีลนี้ดูแย่สำหรับลาซโลในตอนนี้ด้วย เพราะถ้าเขาเก็บเหรียญเหล่านั้นไว้ มันจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ3. บิทคอยน์ถูกกฎหมายในเอลซัลวาดอร์ในเดือน ก.ย. 2021 ประธานาธิบดี นายิบ บูเคเล ของเอลซัลวาดอร์ ประเทศในอเมริกากลาง ประกาศให้บิทคอยน์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายร้านตัดผม ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าอื่น ๆ ต้องรับบิทคอยน์ตามกฎหมาย ควบคู่กับเงินตราหลักคือดอลลาร์สหรัฐหลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้ที่สนใจบิทคอยน์และนักข่าวหลายคนไปเยี่ยมประเทศนี้ ช่วยเพิ่มการท่องเที่ยวได้ชั่วคราวแม้ว่าประธานาธิบดีบูเคเลจะหวังว่าการยอมรับบิทคอยน์จะช่วยเพิ่มการลงทุนในประเทศและลดค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนเงิน แต่ความจริงไม่เป็นเช่นที่เขาหวังไว้ทว่าเขายังหวังว่า มันจะเป็นที่ยอมรับในอนาคต แต่ในปัจจุบัน ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินหลักในประเทศที่มาของภาพ, Reutersคำบรรยายภาพ, ประธานาธิบดี นายิบ บูเคเล ของเอลซัลวาดอร์ ตั้งใจที่จะสร้างเมืองที่มีชื่อว่า "บิทคอยน์ ซิตี้" ขณะที่เขายังคงผลักดันการใช้สกุลเงินดิจิทัลนอกจากประธานาธิบดีบูเคเลจะใช้เงินสาธารณะจำนวนมากเพื่อพยายามทำให้ประชาชนยอมรับบิทคอยน์ เขายังซื้อบิทคอยน์มากกว่า 6,000 เหรียญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากประธานาธิบดีใช้เงินอย่างน้อย 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,100 ล้านบาท) ในการซื้อบิทคอยน์ในราคาต่าง ๆ โดยหวังว่าจะทำกำไรให้กับประเทศที่ขาดแคลนเงินสดในเดือน ธ.ค.2023 ราคาของบิทคอยน์ที่บูเคเลถือไว้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับเขาเว็บไซต์ที่ติดตามการถือครองบิทคอยน์ของประเทศประเมินว่า เหรียญเหล่านี้มีมูลค่าโดยรวมเพิ่มขึ้น 85% 4. ความเฟื่องฟูและล่มสลายของคริปโตในคาซัคสถานในปี 2021 คาซัคสถานกลายเป็นศูนย์กลางสำหรับการขุดบิทคอยน์ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติจากจีนและสหรัฐฯที่เป็นเช่นนั้นเพราะการขุดบิทคอยน์ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงที่จำเป็นในการขับเคลื่อนคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลัง ซึ่งต้องมีการคำนวณซับซ้อนเพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายไว้ด้วยปัจจุบันนี้ การขุดบิทคอยน์ต้องใช้โกดังที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุดที่ทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน ส่วนผลตอบแทนคือบิทคอยน์ใหม่สำหรับบริษัทที่เข้าร่วมคำบรรยายภาพ, โจ ไทดี ผู้สื่อข่าวบีบีซี เยี่ยมชมหนึ่งในเหมืองขุดบิดคอยน์ในคาซัคสถานตอนที่พวกมันยังรุ่งเรืองอยู่ธุรกิจจำนวนมากย้ายไปที่คาซัคสถาน ซึ่งมีไฟฟ้าใช้อย่างล้นเหลือเนื่องจากมีแหล่งถ่านหินสำรองปริมาณมาก และในช่วงแรก รัฐบาลเองก็ยินดีต้อนรับด้วยความเต็มใจเพราะธุรกิจเหล่านี้นำการลงทุนเข้ามาแต่เมื่อมีนักขุดบิทคอยน์มากเกินไปจนทำให้เกิดภาระหนักต่อโครงข่ายไฟฟ้า นี่จึงทำให้ประเทศเสี่ยงต่อการเกิดไฟดับภายในปีเดียว อุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์ในคาซัคสถานก็เปลี่ยนจากความเฟื่องฟูไปสู่การชะงักงัน เนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดข้อจำกัดและเพิ่มภาษีเพื่อลดการเติบโตมีการประเมินกันว่า การขุดบิทคอยน์ทั่วโลกใช้พลังงานเท่ากับประเทศเล็ก ๆ หนึ่งประเทศ5. บิทคอยน์ในกองขยะเจมส์ ฮาเวลส์ ชายชาวอังกฤษมุ่งมั่นที่จะกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของเขาที่เขาบอกว่ามีมูลค่าอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐชายคนนี้มาจากทางตอนใต้ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเขากล่าวว่าเขาเผลอทิ้งฮาร์ดไดรฟ์ที่มีรายละเอียดการเข้าสู่กระเป๋าเงินบิทคอยน์ของเขา ซึ่งมี 8,000 เหรียญในนั้นลักษณะเฉพาะของคริปโตทำให้การกู้คืนไม่ง่ายเหมือนการรีเซ็ตรหัสผ่าน ด้วยเหตุที่ไม่มีธนาคารที่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีสายด่วนสนับสนุนลูกค้าที่มาของภาพ, James Howellsคำบรรยายภาพ, เจมส์ ฮาเวลส์ บอกว่า เขาอยากจะบริจาคเงินหนึ่งในสี่ของเขาให้กับผู้คนในเมืองนิวพอร์ตเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับเขา เพราะสภาท้องถิ่นในเมืองนิวพอร์ตปฏิเสธไม่ให้เขาเข้าถึงสถานที่ฝังกลบขยะเพื่อค้นหาอุปกรณ์ของเขา แม้ว่าเขาจะเสนอที่จะบริจาค 25% ของบิทคอยน์ของเขาให้กับองค์กรการกุศลท้องถิ่นหากได้รับอนุญาตก็ตามเขากล่าวกับบีบีซีว่า: "เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ทำเงินหล่นหาย แล้วก็ยังรู้สึกใจหาย 'คุณทำอะไรลงไป?' ผมครุ่นคิด คุณรู้ว่าคุณไม่เคยทิ้งไดรฟ์ในอดีต แล้วทำไมถึงเป็นครั้งนี้?"6. ราชานักต้มตุ๋นคริปโตไม่มีใครสูญเสียบิทคอยน์มากเท่ากับอดีตมหาเศรษฐีแห่งวงการคริปโตอย่างแซม แบงค์แมน-ฟรายด์ ผู้ก่อตั้งบริษัทคริปโตขนาดใหญ่อย่าง FTX ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาคริปโตและเป็นที่รักของชุมชนFTX เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่อนุญาตให้ผู้คนแลกเปลี่ยนเงินปกติเป็นคริปโตเคอร์เรนซี เช่น บิทคอยน์ที่มาของภาพ, reutersอาณาจักรของเขามีมูลค่าประมาณ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และเขาก็อยู่ในจุดสูงสุดจนกระทั่งทุกอย่างพังทลายลงภายในไม่กี่วันนักข่าวค้นพบว่าบริษัทของแบงค์แมน-ฟรายด์มีสถานะการเงินที่ไม่มั่นคงและได้มีการโอนเงินของลูกค้า FTX ไปยังบริษัทอื่นของเขาอย่าง อลาเมดา รีเสิร์ช อย่างผิดกฎหมายก่อนที่เขาจะถูกจับกุมที่คอนโดหรูในบาฮามาสในเดือน ธ.ค. 2022 เขาได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว โดยกล่าวกับบีบีซีว่า: “ผมไม่คิดว่าผมได้กระทำการฉ้อโกง ผมไม่ได้ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ผมคงไม่มีความสามารถอย่างที่ผมคิด”หลังจากถูกส่งตัวไปยังสหรัฐฯ เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน และถูกจำคุกเป็นเวลา 25 ปี7. ความเฟื่องฟูของธนาคารเพื่อการลงทุนแม้จะมีความปั่นป่วนทั้งหมด บิทคอยน์ยังคงดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนและบริษัทใหญ่ ๆที่จริง ในเดือน ม.ค. 2024 บริษัทการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่งได้เพิ่มบิทคอยน์ในรายการสินทรัพย์อย่างเป็นทางการของพวกเขาในรูปแบบ Spot Bitcoin ETFs ซึ่งเหมือนกับหุ้นและกองทุนที่เชื่อมโยงกับมูลค่าของบิทคอยน์ แต่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบิทคอยน์เองลูกค้าได้ทุ่มเงินเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ บริษัทต่าง ๆ เช่น Blackrock, Fidelity และ GrayScale ได้ซื้อบิทคอยน์จำนวนมาก จนทำให้มูลค่าของมันพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นี่เป็นก้าวสำคัญสำหรับคริปโต ที่บรรดาแฟน ๆ บางคนเชื่อว่า บิทคอยน์กำลังได้รับการยอมรับอย่างจริงจังตามที่ซาโตชิผู้ลึกลับได้จินตนาการไว้แต่บางคนมองอย่างระมัดระวังและกล่าวว่ามันอาจไปในทิศทางที่ต่างออกไป คือเป็นการถือบิทคอยน์เป็นการลงทุนเหมือนทองคำ แทนที่จะใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
Add Comment